การเลือกใช้ปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน

Water pump ปั๊มน้ำ

ปั๊มน้ำ Water pump เป็นสิ่งจำเป็น อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม หรือบ้านพักอาศัย หน้าที่ของปั๊มน้ำก็คือช่วยจ่ายน้ำ ให้เพียงพอต่อการใช้งาน และช่วยในงานภาคการเกษตรอีกมากมาย การเลือกใช้ปั๊มน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำที่เหมาะสมตามความต้องการของผู้ใช้

ปั๊มน้ำ Water pump เป็นอุปกรณ์เพิ่มแรงดันน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานด้วยมอเตอร์(ไฟฟ้า) และแบบที่ใช้เครื่องยนต์ (น้ำมัน) ทำหน้าที่เป็นต้นกำลังหมุนส่งกำลังให้ปั๊มน้ำทำงาน โดยปั๊มน้ำแบ่งตามลักษณะการทำงานออกเป็น 2 แบบ คือ

1.ปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
กลไกลการทำงานของปั๊มน้ำแบบลูกสูบคือ การชักลูกสูบ เลื่อนไป-มา และมีวาล์วเปิด-ปิดสำหรับน้ำที่เข้าออกจากลูกสูบ ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงดันน้ำโดยตรง สมัยก่อนนิยมใช้ในการเกษตร ข้อดีของปั๊มน้ำแบบลูกสูบก็คือสามารถสร้างแรงดันน้ำได้สูง แต่มีข้อเสียที่ให้ปริมาณน้ำน้อย ไม่พอตามความต้องการะ

2.ปั๊มน้ำแบบใบพัด
กลไกลการทำงานของปั๊มแบบใบพัดคือ ทำงานด้วยการหมุนของใบพัด ทำให้เกิดแรงดันจ่ายไปตามท่อน้ำ ข้อดีคือขนาดเล็ก หลักการทำงานง่าย ชิ้นส่วนไม่มาก จ่ายน้ำได้ในปริมาณมาก สร้างแรงดันน้ำได้มากพอควร ถ้าหากต้องการแรงดันสูงสามารถนำปั๊มน้ำมาต่อกันแบบมัลติสเตทได้ ปัจจุบันนิยมใช้กันมาก

ประเภทของปั๊มน้ำ แบ่งตามสถานที่และลักษณะความต้องการในการใช้งาน แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มหลักๆ ดังนี้


1.ปั๊มน้ำอัตโนมัติ
เป็นปั๊มน้ำรุ่นแรกๆ ที่นิยมใช้กัน มีทั้งที่ทำจากเหล็ก และสแตนเลส เป็นการใช้ใบพัดในการสร้างแรงดันน้ำให้ไหลไปตามท่อ โดยมีสวิทช์เปิดปิดควบคุมเวลาที่เราใช้น้ำจะทำให้ความดันในปั๊มค่อยๆลดลงจนสุดปั๊มก็จะทำงานเป็นจังหวะ ตามการใช้งานจริง ทำให้ประหยัดไฟ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ จึงเหมาะกับอาคาร ตึกแถว ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว มากกว่า

2.ปั๊มน้ำแบบแรงดัน

เป็นปั๊มน้ำที่มีการทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับปั๊มน้ำแบบเก่าหรือปั๊มแบบอัตโนมัติ โดยปั๊มน้ำแบบแรงดันนี้จะทำจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ตัวเล็ก หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่เป็นโลหะซึ่งเป็นที่มาของการเกิดเสียงดังเวลาที่ปั๊มทำงาน ปั๊มน้ำแบบแรงดัน เหมาะสำหรับ อพาร์ทเม้นท์ อาคารตึกแถว ทาวน์เฮาส์ บ้าน

3.ปั๊มน้ำหอยโข่ง 

เครื่องสูบน้ำประเภทนี้ ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีหลายแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม เพราะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม คือ สูบน้ำได้ปริมาณมาก สามารถสูบน้ำสะอาดหรือไม่สะอาดก็ได้ เนื่องจากสิ่งสกปรกที่ปะปนอยู่ในน้ำ ไม่ค่อยมีผลเสียต่อปั๊มน้ำประเภทนี้มากนัก การใช้งานก็มีอยู่อย่างกว้างขวาง ทั้งในไร่นา สวนผัก สวนผลไม้ หรือแม้แต่ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เครื่องสูบน้ำแบบนี้ เหมาะสำหรับสูบน้ำในแม่น้ำลำธาร บ่อน้ำ คูคลอง หรืออ่างเก็บน้ำที่มีระดับต่ำกว่าระดับพื้นดินไม่เกิน 10 เมตร การทำงานของปั๊มจะทำการสูบน้ำโดยใช้ระบบใบพัด ความเร็วรอบสูง จะทำให้ได้ปริมาณน้ำมาก อัตราการไหลอยู่ที่ 20,000 ถึง 45,000 ลิตร/ชั้วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะใบพัด Total Head 15-20 เมตร ถ้าเป็นหอยโข่งรุ่น 2 ใบพัด, 3 ใบพัด Head จะมากขึ้น

4.ปั๊มน้ำแบบจุ่ม

หรือปั๊มแช่ ใช้กับงานสูบน้ำออก ข้อดีคือความสะดวกกับการเก็บในพื้นที่ ที่จำกัด ตัวปั๊มจะต้องอยู่ในน้ำแล้วส่งน้ำขึ้นไปยังพื้นที่ที่ต้องการผ่านสายยางหรือท่อน้ำที่ต่อไว้ ส่วนข้อเสียนั้นก็ไม่พ้นเรื่องแรงดันน้ำที่ได้ค่อนข้างน้อย และระยะทางที่ค่อนข้างสั้นแต่ในบางสถานการณ์ปั๊มน้ำแบบนี้ก็เป็นพระเอกได้เหมือนกันซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ที่จะใช้งาน ปั๊มน้ำแบบจุ่ม หรือแบบแช่ เหมาะสำหรับงานน้ำท่วม ใช้ระบายน้ำในพื้นที่จำกัด งานถ่ายเทน้ำฝน งานก่อสร้าง ให้น้ำในสวนหรือที่ไร่นาในงานเกษตร, งานระบายน้ำดี หรือน้ำเสียจากฟาร์มเลี้ยงปลา, บ่อเลี้ยงกุ้ง, เลน, บ่อน้ำพุในสระ หรืองานสูบของเหลวที่มีความหนืดสูง เช่น น้ำปลา,น้ำยาง,น้ำข้าว,น้ำแป้ง

5.ปั๊มชัก

เป็นปั๊มแบบลูกสูบทำงานคู่กับมอเตอร์ นิยมใช้ในงานการเกษตร เพราะปั๊มประเภทนี้ สามารถส่งน้ำไกล มีระดับการส่งน้ำ Heat ที่สูงถึง 20-100 เมตร อัตราส่งน้ำที่ขั้นต่ำที่ 3,000ลิตร/นาที ส่วนข้อเสียนั้นคือมีเสียงที่ดัง (มาก)  จึงนิยมนำมาใช้ในงานเกษตร หรืองานปศุสัตว์ มากกว่า นำมาใช้งานตามบ้านทั่วไป ปั๊มชักเหมาะสำหรับสูบน้ำในแม่น้ำลำธาร บ่อน้ำ คูคลอง หรืออ่างเก็บน้ำที่มีระดับต่ำกว่าระดับพื้นดิน 10-30 เมตรในแนวดิ่ง

6.ปั๊มสำหรับสารเคมี

โดยส่วนใหญ่ปั๊มสารเคมีจะทำงานด้วยระบบใบพัดแต่จะแตกต่างกันด้วยวัสดุที่ใช้ในการผลิตตัวปั๊มโดยตัววัสดุของหัวปั๊มจะมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของสารเคมี เช่นโพรี่โพไพรีน นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เพราะทนความร้อนได้สูง และทนต่อสารระลาย หรือน้ำเค็ม เป็นต้น

7.ปั๊มดูดของหนืดของข้น

เป็นปั๊มที่ใช้ดูของเหลวที่มีความหนืดมากกว่าปกติ เช่นน้ำมัน, น้ำมันเครื่อง, น้ำเชื่อม โดยส่วนใหญ่ทำงานด้วยระบบเฟืองขับ(นิยมเรียกว่าเกียร์ปั๊ม) นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น น้ำมัน, boiler, ยางมะตอย เป็นต้น

เครื่องปั๊มน้ำแต่ละประเภท ก็มีข้อดีในตัวแตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าผู้ใช้จะเลือกใช้ไปในงานด้านไหน การเลือกใช้ปั๊มน้ำให้ถูกต้องตามลักษณะพื้นที่จะเป็นอีกหนึ่ง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาน เพราะการลดต้นทุนในด้านแรงงานสำหรับการเกษตร เพราะระบบน้ำถือเป็นหัวใจหลักที่สำคัญมากๆ  สำหรับงานเกษตร และภาคอุตสาหกรรม

สอบถามข้อมูลได้ที่
088-227-6543 , 02-618-5000

IND

บริษัท อินดัสทรี้โปร จำกัด

☎ : 088-227-6543

✉ : sales@industrypro.co.th

Line : @industrypro

Facebook : Industrypro