รอกไฟฟ้า ( Electric hoist )เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับงานยกของหนัก เหมาะสำหรับใช้งานในคลังสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ก่อสร้าง แต่รู้หรือไม่ว่ารอกไฟฟ้ามีหลายประเภทให้เลือกใช้งาน หนึ่งในตัวเลือกที่สำคัญคือ การเลือกระหว่างรอกไฟฟ้า 1 สปีด กับ 2 สปีด

บทความนี้จะมาเปรียบเทียบรอกไฟฟ้า 1 สปีด กับ 2 สปีด ให้คุณเข้าใจความแตกต่าง เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

1. หลักการทำงาน

• รอกไฟฟ้า 1 สปีด: ควบคุมการยกด้วยมอเตอร์ที่มีความเร็วรอบเดียว มอเตอร์จะทำงานที่ความเร็วคงที่ ยกของขึ้นหรือลงด้วยความเร็วเดียวกันตลอด
• รอกไฟฟ้า 2 สปีด: ควบคุมการยกด้วยมอเตอร์ที่มีความเร็วรอบ 2 ระดับ สามารถเลือกยกของขึ้นหรือลงด้วยความเร็วช้าหรือเร็วได้ตามต้องการ

2. ข้อดี-ข้อเสีย

3. เหมาะกับงานประเภทไหน?

• รอกไฟฟ้า 1 สปีด: เหมาะกับงานทั่วไปที่ไม่ต้องการความละเอียดอ่อน เช่น ยกของขึ้นลงชั้นวางของ ย้ายสิ่งของหนักๆ
• รอกไฟฟ้า 2 สปีด: เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดอ่อน เช่น ยกของที่มีราคาสูง ยกของที่เปราะบาง ต้องการควบคุมความเร็วในการยก

ตัวอย่างงานที่เหมาะกับรอกไฟฟ้า 1 สปีด:

• ยกของขึ้นลงชั้นวางของในคลังสินค้า
• ย้ายเครื่องจักรขนาดใหญ่
• เทคอนกรีต
• ยกของหนักๆ ขึ้นรถบรรทุก

ตัวอย่างงานที่เหมาะกับรอกไฟฟ้า 2 สปีด:

• ยกชิ้นส่วนเครื่องจักรที่มีราคาสูง
• ยกเฟอร์นิเจอร์หรูหรา
• ยกของขึ้นลงบนแท่นสูง
• ประกอบชิ้นส่วนโครงสร้างขนาดใหญ่

4. คำแนะนำเพิ่มเติม

• พิจารณาความจุในการยก: เลือกรอกไฟฟ้าที่มีความจุในการยกที่เหมาะสมกับงานของคุณ
• พิจารณาความสูงในการยก: เลือกรอกไฟฟ้าที่มีความสูงในการยกที่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน
• พิจารณาประเภทของสลิง: เลือกรอกไฟฟ้าที่มีประเภทของสลิงที่เหมาะสมกับงานของคุณ
• พิจารณาเรื่องความปลอดภัย: เลือกรอกไฟฟ้าจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน ใช้งานอย่างถูกต้อง และตรวจสอบสภาพรอกไฟฟ้าก่อนใช้งานทุกครั้ง

5. สรุป

รอกไฟฟ้า 1 สปีด เหมาะกับงานทั่วไปที่ไม่ต้องการความละเอียดอ่อน ราคาถูกกว่า แต่ยกของได้ความเร็วเดียว

รอกไฟฟ้า 2 สปีด เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดอ่อน ยกของได้ทั้งความเร็วช้าและเร็ว ราคาแพงกว่า

การเลือกรอกไฟฟ้าที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับประเภทงาน งบประมาณ และความต้องการใช้งานของคุณ